วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ข่าว IT#2

เยี่ยมเลย! ผลการวิจัยเผยเทคโนโลยี VR ช่วยให้เราจดจำข้อมูลได้ดียิ่งขึ้น


ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Maryland เผยว่า การจดจำข้อมูลผ่านการนำเสนอด้วยระบบเทคโนโลยีภาพเสมือนจริง VR (Virtual Reality) ได้ผลที่ดีกว่าการจดจำข้อมูลรูปแบบสองมิติบนเครื่องคอมพิวเตอร์ ดังนั้นการพัฒนาเทคโนโลยี VR เพื่อนำมาใช้ในการศึกษาเรียนรู้ผ่านสื่อต่างๆ ทั้งแท็บเล็ต และอุปกรณ์อื่นๆ คงจะเกิดประโยชน์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
Amitabh Varshney คณบดีของสาขาคอมพิวเตอร์ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ธรรมชาติของมหาวิทยาลัย Maryland เผยว่า “ข้อมูลเรื่องนี้เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้น เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีภาพเสมือนจริงจะเป็นทางเลือกใหม่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นในด้านการศึกษาเรียนรู้ และการฝึกอบรมระดับสูง”
ในการทดสอบ ทีมนักวิจัยใช้การสร้าง Memory Palace (เทคนิคการจดจำที่ใช้การจำลองสถานที่มาช่วยในการจดจำข้อมูลรายละเอียดต่างๆ ได้ดีขึ้น) โดยในขั้นตอนแรก ผู้เข้าร่วมทดสอบทั้งกลุ่มที่ใช้คอมพิวเตอร์ธรรมดา และกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยี VR ต้องทำความคุ้นเคยด้วยตัวเองกับรูปภาพใบหน้าของบุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น Abraham Lincoln, Dalai Lama, Arnold Schwarzenegger และ Marilyn Monroe เป็นต้น จากนั้นทีมนักวิจัยจะใช้ Memory Palace ที่จำลอง 2 สถานที่ นั่นคือ ห้องภายในพระราชวังหรูหรา และมุมมองภายนอกเมืองในยุคสมัยกลาง โดยผู้เข้าร่วมทดสอบมีหน้าที่จดจำตำแหน่งของแต่ละรูปใบหน้าที่ปรากฏในสถานที่นั้น เช่น รูปของ Oprah Winfrey อยู่ด้านบนของบันไดใหญ่ภายในพระราชวัง ในขณะที่รูปของ Hillary Clinton อยู่ด้านซ้ายของอาคารในเมืองยุคกลาง เป็นต้น
เมื่อหมดเวลาฉากจะเปลี่ยนเป็นว่างเปล่าเพื่อการหยุดพัก หลังจากนั้นฉากสถานที่เดิมจะปรากฏขึ้นแต่รูปภาพใบหน้าถูกเปลี่ยนเป็นตัวเลขแทน ผู้เข้าร่วมทดสอบมีหน้าที่บอกว่าตัวเลขในแต่ละจุดเคยเป็นรูปภาพใบหน้าของใครมาก่อน ซึ่งทางทีมวิจัยเผยว่ากุญแจสำคัญของการทดสอบคือ การที่ผู้เข้าร่วมทดสอบสามารถระบุแต่ละรูปใบหน้าได้ โดยใช้ข้อมูลที่สัมพันธ์กันระหว่างตำแหน่งที่อยู่ภาพในแต่ละสถานที่ ร่วมกับโครงสร้างของใบหน้า
ผลการวิจัยได้ข้อสรุปว่า ผู้ที่ใช้เทคโนโลยี VR สามารถจดจำข้อมูลได้ดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติโดย 40 % ของผู้เข้าร่วมวิจัยได้คะแนนการจดจำด้วยเทคโนโลยี VR มากกว่าการจดจำผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 10 % ของคะแนนการจดจำ อีกทั้งผู้เข้าร่วมการทดสอบหลายๆ คนยังบอกอีกว่า การใช้เทคโนโลยี VR ช่วยให้พวกเขาโฟกัสข้อมูลได้ดีขึ้น โดยทางทีมวิจัยเชื่อว่า เทคโนโลยี VR ช่วยเพิ่มความเสมือนจริงไปอีกขั้นหนึ่ง ทำให้สมองของคนเราสามารถสร้าง Memory Palace ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม

ความคิดเห็น - ข้อดี ทำให้มีการจดจำที่แม่นยำและชัดเจนขึ้น                                                                       - ข้อเสีย อาจจะทำให้ผู้ที่ไม่มีงบประมาณไม่ได้ใช้

แหล่งที่มา:today

วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ข่าว IT#1

Apple จดสิทธิบัตรอุปกรณ์วัดความดันแบบสวมข้อมือ อาจพัฒนามาไว้ใน Apple Watch

         Apple จดสิทธิบัตรระบบวัดความดันโลหิตที่อาจจะนำมาต่อยอดเพื่อให้ Apple Watch สามารถอ่านผลความดันโลหิตได้ในอนาคต
        โดยในเอกสารสิทธิบัตรระบุว่า ระบบดังกล่าวอาจอยู่ในอุปกรณ์ Wearable เช่น นาฬิกา, สายรัดข้อมือ, กำไลข้อมือ หรืออยู่ในอุปกรณ์มือถือจำพวกสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต ขณะที่ตัวควบคุมอาจจะอยู่บนอุปกรณ์เดียวกัน หรืออยู่กันคนละอุปกรณ์ อาทิ อยู่บนคอมพิวเตอร์ ไม่ก็แยกมาอยู่บนอุปกรณ์ Wearable หรืออุปกรณ์มือถือ และอาจมีความเป็นไปได้ว่า ระบบวัดความดันนี้อาจจะเป็นโมดูลที่แยกออกได้ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกนำมาติดไว้กับอุปกรณ์ Wearable หรืออุปกรณ์มือถือได้
อย่างไรก็ตาม นิตยสารการเงินชื่อดัง "Fast Company" ตั้งข้อสังเกตว่า คงจะเป็นเรื่องน่าแปลกใจมาก ถ้าเห็น Apple ผลิตอุปกรณ์วัดความดันโลหิตนี้ออกมาเป็นการเฉพาะ โดยมองว่ามีความเป็นไปได้มากกว่าในการนำเครื่องวัดความดันนี้ไปใส่ไว้ในผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่มีอยู่แล้ว ซึ่งก็น่าจะเป็น Apple Watch นั่นเอง 
ทั้งนี้  Apple เองก็อยากเข้ามาอยู่ในแวดวงของการดูแลสุขภาพให้มากขึ้นอยู่แล้ว ซึ่งก็น่าจะหมายรวมถึงการวางสถานะของ Apple Watch ให้เป็นอุปกรณ์ที่มีวิธีการตรวจสอบด้านสุขภาพที่จริงจังหรือเจาะลึก มากไปกว่าแค่การนับก้าวเดิน หรือวัดอัตราการเต้นของหัวใจ

ความคิดเห็น - ข้อดี ทำให้เกิดความสะดวกสบายต่อคนที่ชอบออกกำลังกาย
                 - ข้อเสีย อาจจะเป็นการสิ้นเปลืองเกินไปถ้าหากไม่มีคนใช้ฟีเจอร์นี้เยอะ
แหล่งที่มา:THAIWARE.COM